จระเข้ เพอร์เฟ็กซ์ ชิลด์

ซีเมนต์ทากันซึมตกผลึก ซึมลำกสำหรับที่ที่มีความชื้น

วิธีการใช้งาน
จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ 
Crocodile Perfect Shield 
ซีเมนต์ทากันซึม ชนิดแทรกซึมลึกตกผลึก (Crystal Cement)

จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยปูนซีเมนต์ ทรายคัดพิเศษ และสารเคมีที่มีคุณสมบัติเฉพาะเป็นระบบกันซึมในงานคอนกรีตได้ดีทั้งคอนกรีตเก่าและคอนกรีตใหม่ ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับทาบนคอนกรีตใช้งานง่าย เพียงผสมน้ำ แล้วนำส่วนผสมที่ได้ทาหรือสเปรย์ลงบนผิวคอนกรีต สารเคมีที่ผสมอยู่จะทำหน้าที่แทรกซึมลงไปในผิวคอนกรีตและไปก่อตัวเป็นผลึก ทำปฏิกิริยาตกผลึกในเนื้อคอนกรีต ต่อเนื่องลึก 5-50 มม. สามารถป้องกันไม่ให้น้ำซึมผ่านผิวคอนกรีตได้ดีทั้งในสภาวะที่มีแรงดันน้ำสูง (Integral Capillary Concrete Waterproofing System)

การเตรียมพื้นผิว

• ทำความสะอาดพื้นผิวคอนกรีตให้ปราศจากฝุ่น เศษปูน น้ำมัน และสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ 
• กรณีผิวหน้าของคอนกรีตที่มีลักษณะมันเงา พื้นขัดมัน หรือมีสิ่งปิดผิวหน้า ต้องมีการขัดเปิดผิวหน้าคอนกรีตให้มีรูพรุน
• หากพื้นผิวมีรอยแตกร้าว ควรซ่อมรอยแตกร้าวก่อน โดยใช้วัสดุซ่อมแซมที่เหมาะสม ในกรณีที่มีรอยเชื่อมต่อที่เกิดจากการก่อสร้าง ควรจะสกัดรอยต่อให้มีความกว้าง และลึกประมาณ 20-30 มม.
• ควรบ่มพื้นผิวให้เปียกชุ่มและปล่อยให้แห้งหมาดๆ

การผสม

• นำจระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ เทลงในน้ำ ผสมตามอัตราส่วนที่กำหนดปั่นด้วยสว่านความเร็วรอบต่ำ ประมาณ 150 รอบต่อนาที (150 rpm) ผสมให้เข้ากัน
• หลังจากผสมแล้วควรใช้งานให้หมดภายใน 20 นาที เมื่อส่วนผสมเริ่มแข็งตัว ห้ามเติมน้ำแล้วนำกลับมาใช้งาน ควรทิ้งแล้วผสมใหม่
• ระหว่างการใช้งานควรทำการกวนเป็นระยะๆ 

อัตราส่วนผสม

• ทาผนัง (แนวดิ่ง) จระเข้ เพอเฟ็ค ชิลด์ 2.5 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร
• ทาพื้น (แนวนอน) จระเข้ เพอเฟ็ค ชิลด์ 2:1 ส่วน ต่อ น้ำสะอาด 1 ส่วน โดยปริมาตร

การใช้งาน

1. ควรใช้แปรงชนิดในสังเคราะห์ (Masonry) ซึ่งเหมาะสำหรับทาจระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์
2. การทา จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ บนพื้น (แนวนอน) ให้ทาเพียงครั้งเดียว
3. ในกรณีทาผนัง (แนวดิ่ง) ให้ทา 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ให้เว้นระยะเวลาประมาณ 20 นาที
4. หลังจาก จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ แห้งตัว 24 ชั่วโมง ควรมีการบ่มผิวด้วยน้ำอย่างน้อย 3 วัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้นและให้บ่มน้ำ 3 ครั้งต่อวัน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ แทรกซึมตามรูพรุนของคอนกรีต

อัตราการใช้งาน

• ทาผนัง (แนวดิ่ง) Vertical Concrete or Block Surface 1.4 - 1.6 กิโลกรัม ต่อ ตารางเมตร 2 ครั้ง
• ทาพื้น (แนวนอน) Horizontal Concrete Surface 1.1 กิโลกรัม ต่อ ตารางเมตร ทาครั้งเดียว

วิธีการซ่อมแซม โดยการเจาะและอุดรูโพรง
ผลิตภัณฑ์ทำปฏิกิริยากับความชื้นก่อให้เกิดผลึกถาวร (Crystalline) ปิดกั้นรุพรุนในเนื้อคอนกรีตป้องกันน้ำได้ทุกทิศทาง ระบบจะดียิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากผลึกดังกล่าวจะแทรกตัวลึกลงไป และมีความหนาแน่นเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหารอยชื้นที่เกิดขึ้นให้เจาะรูนำน้ำที่อยุ่ในโพรงออกให้หมดด้วยการใช้อุปกรณ์ดูด หรือใช้ลมเป่า ใช้ท่อระบายลมหรือเครื่องสูบน้ำ เทส่วนผสมที่ไม่ข้นมากของ จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ ลงในรูโพรงที่นำน้ำออกหมดแล้ว ค่อยๆ ใช้ไม้หรือแท่งเหล็กกระทุ้งให้ จระเข้ เพอเฟ็ค ชิลด์ ไหลลงไปจนเต็ม ปิดรูโพรงด้วย จระเข้โพรเทคกรีต มอร์ต้า เจาะรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2–2.5 ซม. ในบริเวณที่มีจุดศูนย์กลางขนาด 15–20 ซม. มุม 40–80 องศา จนถึงสามในสี่ (3/4) ของขนาดกำแพง
ข้อจำกัดการใช้
ไม่ควรใช้บริเวณพื้นที่แห้ง ควรพรมน้ำให้เปียกชื้นผลิตภัณฑ์จะทำปฏิกิริยาความชื้น ถ้าต้องการทาสีทับบนพื้นผิวของ จระเข้ เพอร์เฟ็ค ชิลด์ จะต้องล้างพื้นผิวด้วยสารละลายน้ำกับน้ำส้มสายชู หลังจากนั้นให้ทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

ข้อควรระวัง

• ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ และสารผสมเพิ่มอื่นๆ ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่างๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ
• ในกรณีเข้าตาให้ล้างนัยน์ตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์
• ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก

การเก็บรักษา

• ควรเก็บไว้ในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
• อายุของผลิตภัณฑ์ 1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้ (ถ้าหากใช้ไม่หมดถุงต้องมัดปากถุงให้แน่นสนิททุกครั้ง)

  *ได้รับอนุญาตให้ใช้รูปภาพสินค้าและข้อมูลสินค้าจากบริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว*

สินค้าใกล้เคียง

จระเข้ เฟล็กซ์ ชิลล์                         แลงโก้ 227                                 แลงโก้ 202                                  ดร.ฟิคสิท คริสตัลไลน์ 

เรื่องของกันซึม !!

        ผลิตภัณฑ์กันซึมในปัจจุบันนี้พัฒนาไปมาก มีหลายยี่ห้อในท้องตลาด  จากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง ที่พบมีอยู่ 5 ประเภท

1.กันซึมเบสซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์ออกจากโรงงานมาเหมือนถุงปูนทั่วไป การใช้งานคือผสมปูนกันซึมกับน้ำตามอัตราส่วนข้างถุง ผสมให้เข้ากันโดยใช้หัวปั่นก่อนแล้วจึงนำไปใช้ แบ่งได้ 2 แบบ

1. กันซึมเบสซีเมนต์ชนิดไม่ยืดหยุ่น ใช้งานด้วยการทาบนพื้นผิว (Coating)บางชนิดมีความสามารถในการตกผลึกแทรกเข้าไปอยู่ตามรอยแตกบนผิวคอนกรีต แต่มีข้อจำกัดตามชื่อเลย คือ ไม่ยืดหยุ่น หากบริเวณพื้นที่ที่นำไปทานั้น มีแรงสั่นสะเทือนมาก ก็จะทำให้ตัวซีเมนต์กันซึมเกิดรอยแครกได้ กันซึมชนิดไม่ยืดหยุ่นปัจจุบันไม่ค่อยพบในตลาดแล้ว เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีการพัฒนาเป็นกันซึมชนิดยืดหยุ่น
2. กันซึมเบสซีเมนต์ชนิดยืดหยุ่น คุณสมบัติทุกอย่างเหมือนกันซึมชนิดไม่ยืดหยุ่น ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ ความยืดหยุ่น  สามารถใช้กับทั้งงานโครงสร้างที่มีการสั่นสะเทือน ระเบียง อ่างเก็บน้ำ บ่อน้ำ บ่อเลี้ยงปลา ห้องน้ำ ให้การยืดหยุ่นดีและในบางรุ่นสามารถใช้ทาทับบนพื้นผิวกระเบื้องเดิมได้ด้วย มีให้เลือกใช้ 2 แบบ
   1. แบบ 2 ส่วนผสม (Part A & Part B หรือ 2K) : TOA :237 Cement Membrane , จระเข้ : Flex 2K , LANKO 226 Flex LANKO 225 และ LANKO 228 Super Flex เป็นต้น
   2. แบบส่วนผสมเดียว (1K) : TOA : Floor Seal & WaterBloc, จระเข้  Flex Shield และ LANKO : 227 Flex Shield เป็นต้น

*งานทำกันซึมดาดฟ้าร้านโกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ วิสุทธิกษัตริย์ ปูทับด้วยหญ้าเทียม ใช้จระเข้  Flex Shield 

*งานทำกันซึม/ทำฐานราก โรงแรมBANGSAK MERLIN RESORT 

2.กันซึมเบสของเหลว ง่ายๆเลยคือ เปิดฝาถังมา ใช้ได้เลย เป็นกันซึมสำเร็จรูป มีหลายสี(ขึ้นกับแต่ละยี่ห้อว่าผลิตออกมากี่สี) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

1. กันซึมอะคริลิค เป็นผลิตภัณฑ์พร้อมใช้ (ส่วนผสมเดียว) ยึดเกาะดี ป้องกันและแก้ไขปัญหารอยแตกร้าวของคอนกรีตได้ดี ให้ความยืดหยุ่นสูงกว่าชนิดซีเมนต์ ใช้งานง่าย ทนต่อรังสี UV ได้ดี  แต่จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองพบว่า ไม่เหมาะในพื้นที่ที่มีการขังน้ำเป็นเวลานาน(ถ้าน้ำไหลผ่าน ไม่เป็นปัญหา) เนื่องจากความชื้นสะสมดันตัวขึ้นมาทำให้กันซึมพองตัวและหลุดล่อนได้ ผลิตภัณฑ์ที่พบในตลาด เช่น TOA : Roof Seal , จระเข้ : Roof Shield , LANKO : 451 : Sovacryl , LANKO 452 SOVACRYL WALL และ LANKO 401 SOLAR TAC(ตัวนี้มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน)
2. กันซึมโพลียูริเทน จะเหมือนกันกับกันซึมอะคริลิค เพียงแต่มีความทนทานและยืดหยุ่นมากกว่า และมีข้อจำกัดเช่นเดียวกันในเรื่องไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีการขังน้ำ และมีราคาสูงกว่า เช่น LANKO 453 POLYURETHANE , จระเข้ อิลาสติก ชิลด์ เป็นต้น

3.น้ำยากันซึม ต้องบอกว่าเป็นระบบกันซึมที่เก่าแก่ที่สุดในบ้านเรา คือ การใช้น้ำยากันซึมเทผสมเข้าไปกับปูนซีเมนต์ตอนทำโครงสร้าง ซึ่งน้ำยากันซึมจะช่วยลดรูพรุนในเนื้อปูน ทำให้น้ำไหลเข้าไปไม่ได้

4. กันซึมแบบเมมเบรน เป็นกันซึมอีกชนิดที่พบเห็นอยู่ เป็นแผ่นยางกันซึม บางเรียกว่า Bitumen เป็นแผ่นยางที่มีความหนา ยืดหยุ่น ทดแดด การติดตั้งต้องอาศัยช่างผู้ชำนาญ การทำกันซึมประเภทนี้ต้องทำความสะอาดพื้นผิวเหมือนเช่นการทำกันซึมทั่วไป แล้วทาน้ำยาพาร์มเมอร์ทั่วพื้นที่ทำหน้าที่เป็นกาวประสานแผ่นเมมแบรน โดยมีระยะทับซ้อน 5-10 ซม. ระหว่างติดตั้งต้องใช้เครื่องพ่นไฟ พ่นไฟลงไปที่แผ่นเมมเบรน

5. แผ่นปิดรอยต่อ หรือเรียกว่า บิวทิล เทป มักเห็นในงานวางครอบกระเบื้องหลังคาหรือใช้ปิดจุดรั่วซึมที่เห็นได้ชัดเจน มักพบบริเวณรอยต่อคอนกรีต

6. ฟลินท์โค้ท เป็นอีกกันซึมชนิดที่อยู่ในบ้านเรามานาน ยางมะตอยอิมัลชั่นสูตรน้ำ สำหรับทาซ่อมอุดรอยแตก หรือทาเคลือบผิวเพื่อป้องกันการรั่วซึม ข้อดีของกันซึมชนิดนี้คือ ใช้งานง่าย แต่มีข้อจำกัดเรื่องสี กันซึมจะมีสีดำ แล้วควรใช้คู่กับผ้าดิบ

        จริงๆแล้วยังมีผลิตภัณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้องกับงานกันซึมอยู่อีก เช่น เทปกาวบิวทิว , ตาข่ายไฟเบอร์ (FiberMesh) , ยาแนวซิลิโคน , ยาแนวกาวพียู ซึ่งจะขอเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไป ในหัวข้อ วัสดุอุดรอยต่อ

หากลูกค้าท่านใดสนใจสินค้า ปูนกาว ยาแนว เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง หรือสินค้าอื่นใดที่ทางเรามีจำหน่าย สามารถติดต่อได้ที่ 084-1288835

หากท่านคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ท่านสามารถแชร์บทความนี้ได้เลย

เขียน/เรียบเรียง : https://home1click.com